🧾 การขออนุญาตก่อสร้าง โกดัง คลังสินค้า โรงงาน

เตรียมตัวให้พร้อมก่อนสร้างจริง เพื่อธุรกิจที่มั่นคงในระยะยาว

🏗️ การก่อสร้างอาคารประเภทโกดัง คลังสินค้า หรือโรงงาน ไม่ใช่แค่เรื่องของแบบแปลนหรือโครงสร้างเท่านั้น แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของกฎหมายอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเรื่อง "การขออนุญาตก่อสร้าง" ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่เจ้าของโครงการจำเป็นต้องรู้และเตรียมการอย่างถูกต้อง หากดำเนินการโดยไม่มีใบอนุญาต อาจถูกสั่งรื้อถอนหรือมีผลทางกฎหมายตามมา บทความนี้จะพาคุณเข้าใจขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้การสร้างโกดังหรือโรงงานของคุณราบรื่นตั้งแต่เริ่มต้น

📋 1. ทำไมต้องขออนุญาตก่อสร้าง?

กฎหมายควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 กำหนดไว้ชัดเจนว่า การก่อสร้างอาคารทุกประเภท ต้องได้รับอนุญาตจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น เทศบาล อบต. หรือ กทม. การขออนุญาตก่อสร้างมีจุดประสงค์เพื่อควบคุมความปลอดภัย ความเหมาะสมของที่ตั้ง และผลกระทบต่อชุมชนรอบข้าง โดยเฉพาะอาคารขนาดใหญ่ เช่น คลังสินค้า หรือโรงงาน ซึ่งอาจส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมและการจราจร

🗂️ 2. เอกสารที่ใช้ในการขออนุญาตก่อสร้าง

การยื่นขออนุญาตจำเป็นต้องจัดเตรียมเอกสารอย่างครบถ้วน ซึ่งประกอบด้วย:

• แบบแปลนสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม ที่ออกโดยผู้ประกอบวิชาชีพที่ได้รับใบอนุญาต

• รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) หรือ IEE (ถ้าจำเป็น)

• เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน

• แบบฟอร์มคำขออนุญาตก่อสร้าง (แบบ อ.1)

• สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของโครงการ

• หนังสือยินยอม (หากใช้พื้นที่ร่วมกับบุคคลอื่น)

📍 3. ขั้นตอนการดำเนินการขออนุญาตก่อสร้าง

1. ออกแบบอาคาร โดยสถาปนิกและวิศวกรที่มีใบอนุญาต
2. ตรวจสอบข้อบัญญัติท้องถิ่น เช่น การใช้ประโยชน์ที่ดินตามผังเมือง
3. จัดเตรียมเอกสาร เพื่อยื่นคำขออนุญาต
4. ยื่นแบบขออนุญาต ณ สำนักงานเขต เทศบาล หรือ อบต. ที่ที่ดินตั้งอยู่
5. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารและสถานที่จริง
6. รอผลอนุมัติ หากครบถ้วนจะได้รับใบอนุญาตก่อสร้างภายใน 45-60 วัน
7. เริ่มก่อสร้างได้ทันทีหลังได้รับอนุญาต

⚠️ 4. สิ่งที่ควรระวัง

• หากสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต อาจถูกสั่งรื้อถอน หรือเสียค่าปรับ

• แบบแปลนต้องถูกต้องตามมาตรฐาน เช่น ความสูงอาคาร การเว้นระยะจากที่ดินข้างเคียง

• โครงการขนาดใหญ่ อาจต้องมีรายงาน EIA หรือผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานเพิ่มเติม

• ตรวจสอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายโรงงาน, สิ่งแวดล้อม, ผังเมืองรวม

🏭 5. โรงงานกับคลังสินค้า ต่างกันอย่างไรในแง่กฎหมาย?

แม้โรงงานและคลังสินค้าจะดูคล้ายกัน แต่ตามกฎหมายมีความแตกต่างในประเด็นสำคัญ:

• โรงงาน: หากมีการผลิต หรือแปรรูปสินค้า ต้องขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง.4) จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม

• คลังสินค้า: หากใช้เพื่อจัดเก็บสินค้า ไม่ต้องขอใบ รง.4 แต่ยังต้องมีใบอนุญาตก่อสร้างเช่นกัน

• ทั้งสองกรณี อาจต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการประเภทอื่น ขึ้นอยู่กับสินค้า เช่น อาหาร เคมี หรือวัตถุอันตราย

📌 สรุป การขออนุญาตก่อสร้างโกดัง คลังสินค้า หรือโรงงาน เป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญและไม่ควรมองข้าม เพราะมีผลโดยตรงต่อการดำเนินธุรกิจในระยะยาว หากวางแผนให้ดีตั้งแต่ต้น ตรวจสอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน จะช่วยให้โครงการดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ไม่ต้องมาแก้ไขภายหลังให้เสียเวลาและงบประมาณ

แหล่งข้อมูลอ้างอิง:

1. พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522
– https://www.dpt.go.th/plan/plan/Buidlaw/Buildingcontrollaw.html
2. แนวทางการขออนุญาตก่อสร้างจากกรมโยธาธิการและผังเมือง
– https://www.dpt.go.th
3. แบบฟอร์มคำขออนุญาตก่อสร้าง (แบบ อ.1)
– https://www.dpt.go.th/Downloads/BOQ/แบบฟอร์มอ.1.pdf
4. กรมโรงงานอุตสาหกรรม – ใบอนุญาต รง.4 และข้อกำหนดโรงงาน
– https://www.diw.go.th
5. ข้อมูลการยื่นขออนุญาตก่อสร้างในเขตกรุงเทพฯ จากกรุงเทพมหานคร
– https://www.bangkok.go.th
6. กฎหมายผังเมืองรวม – ข้อจำกัดในการใช้ประโยชน์ที่ดิน
– https://www.cpd.go.th

หรือดูจากประกาศของกรมโยธาธิการในเขตพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง

🏢 หากคุณต้องการผู้เชี่ยวชาญช่วยดำเนินเรื่องการก่อสร้างโรงงาน หรือ โกดังแบบครบวงจร TST Group พร้อมให้บริการ

เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผน ออกแบบ และสร้างโกดัง คลังสินค้า และโรงงานอุตสาหกรรม ด้วยทีมงานมืออาชีพที่เข้าใจข้อกฎหมายเป็นอย่างดี
📞 เยี่ยมชมบริการของเราได้ที่ www.tstgroup.co.th

“สร้างอย่างมั่นใจ ปลอดภัยได้มาตรฐานตามกฎหมายกำหนด ต้อง TST Group” ✅

หากต้องการสร้างโกดัง ออกแบบโกดัง สามารถติดต่อได้ที่
Facebook: บริษัท ทีเอสที กรุ๊ป จำกัด
Line: @tstgroup
Email: chatchart.tst@gmail.com
Tel: 064-273-1001